คุณแม่ปวดท้องหลังคลอดอันตรายไหม รับมือยังไงดี

Listen to this article
Ready
คุณแม่ปวดท้องหลังคลอดอันตรายไหม รับมือยังไงดี
คุณแม่ปวดท้องหลังคลอดอันตรายไหม รับมือยังไงดี









































คุณแม่ปวดท้องน้อยหลังคลอด อันตรายหรือไม่ ควรรับมืออย่างไรบ้าง
















คุณแม่ปวดท้องหลังคลอดอันตรายไหม รับมือยังไงดี





















































คู่มือคุณแม่มือใหม่ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเอง




















บทความ




















เม.ย. 9, 2024




















5นาที










นับจากช่วงเวลาหลังคลอด คุณแม่ก็ได้ย่างเข้าสู่การเป็นคุณแม่มือใหม่อย่างเต็มตัว นอกจากจะต้องดูแลเจ้าตัวน้อยแล้ว ร่างกายของคุณแม่หลังคลอดควรต้องได้รับการพักฟื้นและการดูแลด้วยเช่นกัน เพราะการเปลี่ยนแปลงจากการตั้งครรภ์ทำให้การทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายของคุณแม่เปลี่ยนไป ในช่วงเวลาหลังคลอดนี้จึงเป็นช่วงที่ร่างกายกำลังปรับสภาพให้เข้าสู่สภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม ภายหลังคลอดคุณแม่อาจมีอาการปวดท้องหลังคลอดหรือปวดท้องน้อยหลังคลอดขึ้นได้





























เก็บไว้อ่านคราวหน้า





































คุณแม่ปวดท้องหลังคลอดอันตรายไหม รับมือยังไงดี


















































































หนูคลอดธรรมชาติค่ะ ทำไมยังรู้สึกเจ็บหน่วงๆ ที่ท้องน้อยเหมือนปวดประจำเดือนอยู่เลยคะ? แบบนี้ปกติไหม?







ปกติและเป็นสัญญาณที่ดีมากค่ะ! อาการปวดหน่วงๆ ที่ท้องน้อยที่คุณแม่รู้สึกนั้นเรียกว่า "Afterpains" หรือ "อาการปวดมดลูกหลังคลอด" ซึ่งเกิดจากการที่มดลูกกำลัง "หดรัดตัวอย่างแข็งขัน" เพื่อกลับคืนสู่ขนาดปกติเหมือนก่อนตั้งครรภ์ค่ะ ความเจ็บปวดนี้เป็นสัญญาณว่ากล้ามเนื้อมดลูกกำลังทำงานได้ดีเพื่อขับน้ำคาวปลาออกมาและป้องกันการตกเลือด คุณแม่จะรู้สึกเจ็บชัดเจนขึ้นเป็นพิเศษ "ขณะที่กำลังให้นมลูก" เพราะการดูดของลูกจะไปกระตุ้นฮอร์โมนออกซิโทซินให้หลั่งออกมา ซึ่งเป็นตัวเร่งให้มดลูกหดตัวได้ดียิ่งขึ้นค่ะ























หนูคลอดลูกคนที่สองแล้วค่ะ ทำไมรู้สึกว่าปวดท้องน้อยหลังคลอด "เจ็บกว่า" ตอนท้องแรกเยอะเลยคะ?







คุณแม่ไม่ได้คิดไปเองค่ะ เป็นเรื่องจริงและปกติมาก! ในท้องหลังๆ อาการปวดมดลูกหลังคลอดมักจะเจ็บปวดรุนแรงกว่าท้องแรก เหตุผลก็เพราะว่ากล้ามเนื้อมดลูกของคุณแม่ที่เคยผ่านการขยายตัวมาแล้วครั้งหนึ่ง จะมีความ "ตึงตัวน้อยลง" กว่าเดิม ทำให้ในการหดรัดตัวกลับเข้าอู่ครั้งนี้ ร่างกายจะต้องทำงาน "หนักขึ้นและบีบตัวแรงขึ้น" เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เท่าเดิม จึงทำให้คุณแม่รู้สึกเจ็บปวดมากกว่าท้องแรกนั่นเองค่ะ























นอกจากปวดท้องน้อยแล้ว หนูยังรู้สึก "ปวดเหมือนโดนถ่วง" ที่บริเวณอุ้งเชิงกรานด้วยค่ะ แบบนี้เกี่ยวกันไหมคะ?







เกี่ยวข้องกันค่ะ และเป็นความรู้สึกที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะในคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติ ความรู้สึกเหมือนโดนถ่วงนี้เกิดจากการที่ "กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน" ซึ่งทำหน้าที่พยุงมดลูก, กระเพาะปัสสาวะ, และลำไส้ ถูกยืดขยายอย่างมากในระหว่างการคลอด ทำให้เกิดความอ่อนล้าและหย่อนตัวลงชั่วคราวค่ะ วิธีช่วย คือการเริ่มฝึก "ขมิบช่องคลอด (Kegel Exercises)" เบาๆ เมื่อความเจ็บปวดเริ่มทุเลาลง จะช่วยฟื้นฟูความแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่วนนี้ได้ดีมากค่ะ





































 

สรุป

  • อาการปวดท้องหลังคลอด เป็นภาวะที่อาจเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ในระยะ 2-3 วันแรกหรือช่วงสัปดาห์แรกหลังคลอดลูก
  • ในขณะที่คุณแม่กำลังให้นมลูก ก็อาจเกิดอาการปวดท้องหลังคลอดได้มากกว่าปกติ
  • อาการปวดท้องหลังคลอดหรือปวดท้องน้อยหลังคลอด เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับคุณแม่ที่คลอดแบบธรรมชาติและคลอดแบบผ่าตัดคลอด
  • มดลูกจะเข้าสู่สภาวะปกติหรือที่เรียกว่ามดลูกเข้าอู่ประมาณ 4-6 สัปดาห์ อาการปวดท้องหลังคลอดที่มีสาเหตุมาจากการบีบรัดตัวของมดลูกอาจบรรเทาลง

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

  • ปวดท้องหลังคลอด  มักเกิดขึ้นจากสาเหตุนี้
  • อาการปวดท้องหลังคลอด เป็นแบบไหน
  • ปวดท้องน้อยหลังคลอด เป็นเฉพาะคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติหรือเปล่า ?
  • ปวดท้องหลังคลอด หายได้เองภายในกี่วัน
  • ช่วยบรรเทาอาการปวดท้องน้อยหลังคลอด วิธีไหนทำได้บ้าง
  • ปวดท้องหลังคลอดแบบไหน ต้องรีบไปพบแพทย์

 

โดยทั่วไปแล้วระบบการทำงานในส่วนต่าง ๆ หลาย ๆ ส่วนของร่างกายคุณแม่หลังคลอดจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติในช่วง 6-8 สัปดาห์ รวมถึงแผลที่เกิดจากการคลอดลูกก็จะสมานตัวในช่วงนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ในช่วงระยะแรก ๆ คุณแม่อาจมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นหลังคลอด รวมถึงอาการปวดท้องหลังคลอดตามมาได้ เมื่อต้องเจอกับอาการปวดท้องหลังคลอดควรรับมืออย่างไร ปวดท้องน้อยหลังคลอดแบบไหนที่ควรไปหาคุณหมอ มาหาคำตอบเพื่อให้คุณแม่มือใหม่คลายกังวลกัน

 

ปวดท้องน้อยหลังคลอด มักเกิดขึ้นจากสาเหตุนี้

โดยปกติอาการปวดท้องหลังคลอด หรือปวดท้องน้อยหลังคลอด เป็นภาวะที่อาจเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ในช่วงสัปดาห์แรกหลังคุณแม่คลอดลูก เนื่องจากช่วงระยะการตั้งครรภ์มดลูกได้ขยายตัวใหญ่ขึ้นมากกว่าปกติ ภายหลังคลอดกลไกธรรมชาติของมดลูกจะมีการหดรัดตัวลงเพื่อกลับเข้าสู่สภาวะปกติหรือกลับมามีขนาดเท่าเดิมและกลับเข้าที่บริเวณอุ้งเชิงกราน ในจังหวะที่มดลูกบีบตัวก็จะทำให้คุณแม่รู้สึกปวดท้องหลังคลอดได้ โดยเฉพาะในช่วงที่คุณแม่กำลังให้นมเจ้าตัวน้อย ซึ่งอาจจะทำให้คุณแม่ปวดท้องได้มากขึ้นหรือปวดเป็นพัก ๆ เป็นผลมาจากการหลั่งฮอร์โมนที่มีส่วนช่วยให้มดลูกหดรัดตัวดีขึ้น ทั้งนี้กลไกการหดรัดตัวของมดลูกยังเป็นการช่วยหยุดการไหลของเลือดในโพรงมดลูกให้ไหลน้อยลง ยับยั้งไม่ให้เกิดภาวะตกเลือดหลังคลอด ช่วยขับน้ำคาวปลา และยังช่วยทำให้มดลูกเข้าที่เร็วขึ้น หรือที่มักเรียกกันว่า มดลูกเข้าอู่

 

อาการปวดท้องน้อยหลังคลอด เป็นแบบไหน

ภาวะปวดท้องหลังคลอด อันเนื่องจากการบีบและหดรัดตัวของมดลูก อาจส่งผลให้คุณแม่รู้สึกปวด เจ็บ หรือชา บริเวณหน้าท้องหรือบริเวณมดลูก โดยอาการปวดท้องน้อยหลังคลอดมักจะเกิดขึ้นในระยะเวลา 2-3 วัน แรกหลังคลอดลูก อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่สังเกตพบอาการผิดปกติ เช่น รู้สึกปวดท้องมากกว่าปกติในขณะที่ไม่ได้ให้นมลูก มีไข้ น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็นและไหลมากผิดปกติ หรือพบลิ่มเลือดไหลออกมามากบริเวณช่องคลอด คุณแม่ควรรีบเข้าพบคุณหมอเพื่อตรวจวินิจฉัยอาการทันที

 

ปวดท้องน้อยหลังคลอด เป็นเฉพาะคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติหรือเปล่า?

อาการปวดท้องหลังคลอดหรือปวดท้องน้อยหลังคลอด เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับคุณแม่ที่คลอดแบบธรรมชาติและคลอดแบบผ่าตัดคลอด เนื่องจากการหดรัดตัวของมดลูก และอาจจะปวดมากเป็นครั้งคราวในขณะที่คุณแม่กำลังให้นมลูกน้อย กรณีที่คุณแม่คลอดลูกคนที่ 2 จะมีโอกาสปวดท้องหลังคลอดได้มากกว่าครรภ์แรกด้วย

 

ปวดท้องน้อยหลังคลอด หายได้เองภายในกี่วัน

อาการปวดท้องหลังคลอดที่เกิดขึ้นได้กับคุณแม่ในช่วง 2-3 วันแรก หรือปวดในขณะให้นมลูกน้อย เป็นผลมาจากกลไกธรรมชาติของมดลูกที่มีการหดรัดตัวให้เล็กลงกลับเท่าขนาดเดิมปกติ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมดลูกจะเข้าสู่สภาวะปกติหรือมดลูกเข้าอู่ประมาณ 4-6 สัปดาห์ อาการปวดท้องที่มีสาเหตุมาจากการบีบรัดตัวของมดลูกอาจบรรเทาลง รวมถึงร่างกายของคุณแม่หลังคลอดจะฟื้นตัวกลับมาสู่สภาวะปกติประมาณ 6-8 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามในระยะหลังคลอดนี้ คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นต่อร่างกายได้ เช่น หลีกเลี่ยงการขึ้นลงบันไดบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการยกของหนักที่มีน้ำหนักมากกว่าลูกน้อย ไม่ควรออกแรงเบ่งเวลาขับถ่าย และงดการออกกำลังกายหลังคลอดที่ต้องใช้แรงเยอะ เป็นต้น ทั้งนี้ในช่วง 4-6 สัปดาห์แรกหลังคลอด คุณแม่ควรไปตรวจสุขภาพตามที่คุณหมอนัดเสมอ หากคุณแม่ดูแลตัวเองหลังคลอดเป็นอย่างดี ร่างกายของคุณแม่จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติเหมือนก่อนตั้งครรภ์ได้อย่างแข็งแรง

 

บรรเทาอาการปวดท้องน้อยหลังคลอด วิธีไหนทำได้บ้าง

ช่วงระยะ 2-3 วันแรกหลังคลอด คุณแม่อาจจะเกิดอาการปวดท้องน้อยหลังคลอดขึ้นได้ วิธีที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดท้องหลังคลอดและการดูแลตัวเองง่าย ๆ เพื่อให้ร่างกายหลังคลอดลูกฟื้นตัวเร็ว เช่น

  1. ประคบร้อน นำถุงประคบร้อนบริเวณหน้าท้อง ความร้อนจะช่วยทำให้เลือดหมุนเวียนดีขึ้น และทำให้มดลูกคลายตัว
  2. แช่น้ำอุ่น ลงแช่ในน้ำอุ่นประมาณ 30 นาที ช่วยให้การหมุนเวียนเลือดภายในร่างกายดีขึ้น ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย บรรเทาอาการปวดท้อง ทั้งนี้ก่อนลงแช่น้ำควรทำความสะอาดร่างกายและอ่างอาบน้ำ เพื่อระมัดระวังเชื้อโรคเข้าไปทางปากช่องคลอดและอาจลุกลามเข้าไปในโพรงมดลูก เป็นผลทำให้เกิดการติดเชื้อได้
  3. ฝึกหายใจเข้าลึก ๆ และช้า ๆ ใช้วิธีการนั่งสมาธิหรือเล่นโยคะเพื่อกำหนดลมหายใจเข้าและออกอย่างช้า ๆ
  4. นอนหลับในท่าที่สบาย หรืออาจใช้หมอนช่วยพยุงเพื่อให้นอนได้สบายขึ้น ช่วยให้คุณแม่ผ่อนคลายจากอาการปวด ซึ่งในช่วงกลางคืนคุณแม่ควรได้นอนพักเต็มที่ให้ได้อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมงและงีบหลับในขณะที่ลูกน้อยหลับในช่วงกลางวันบ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายอ่อนเพลีย
  5. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ คุณแม่หลังคลอดควรรับประทานอาหารให้เทียบเท่ากับช่วงเวลาตั้งครรภ์ การรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนจะช่วยฟื้นฟูร่างกายคุณแม่ให้แข็งแรง ยังส่งผ่านถึงน้ำนมให้มีคุณภาพดีส่งผลดีต่อลูกน้อยด้วย
  6. ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 6-8 แก้ว เพื่อช่วยลดอาการท้องผูกในระยะหลังคลอด ซึ่งคุณแม่อาจจะออกแรงเบ่งหรือใช้เวลานานในการขับถ่ายอันจะส่งผลต่ออาการปวดท้องน้อยหลังคลอด

 

คุณแม่ควรรู้วิธีบรรเทาอาการปวดท้องน้อยหลังคลอด

 

ปวดท้องน้อยหลังคลอดแบบไหน ต้องรีบไปพบแพทย์

โดยปกติแล้วอาการปวดท้องหลังคลอด อาจเกิดขึ้นได้กับคุณแม่มือใหม่ในช่วงหลังคลอดแรก ๆ หากมีอาการปวดท้องน้อยหลังคลอดไม่รุนแรง คุณแม่สามารถดูแลตัวเองและรับมือเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่พบว่ามีอาการปวดท้องหรืออาการผิดปกติหลังคลอดอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ ควรรีบไปหาคุณหมอเพื่อตรวจวินิจฉัยอาการทันที

  • ปวดท้องรุนแรงมากกว่าปกติ หรือปวดท้องน้อยในขณะที่ไม่ได้ให้นมลูก
  • มีน้ำคาวปลาไหลออกมาเยอะกว่าปกติและมีกลิ่นเหม็น
  • มีอาการไข้สูง
  • มีลิ่มเลือดออกมาจากช่องคลอดมาก
  • มีเลือดออกทางช่องคลอดในปริมาณมากจนผ้าอนามัย 1 ผืนเปียกชุ่มภายในหนึ่งชั่วโมง
  • หลังคลอดในระยะ 2 สัปดาห์แรก ไม่มีน้ำคาวปลาไหล
  • มีน้ำคาวปลาสีแดงสดไหลออกมากกว่า 4 วัน
  • รู้สึกปวดท้องน้อย แสบหรือขัดเวลาที่ปัสสาวะ
  • ปวดหัวรุนแรง
  • รวมถึงอาการอื่น ๆ เช่น เต้านมอักเสบ บวมแดง หรือแผลผ่าตัดเกิดอาการบวมแดงอักเสบ มีหนอง มีน้ำเหลืองไหลซึม เป็นต้น

 

ภาวะปวดท้องหลังคลอดหรือปวดท้องน้อยหลังคลอด เป็นอาการที่พบได้ทั้งคุณแม่ที่คลอดแบบธรรมชาติและแบบผ่าตัดคลอด หากคุณแม่เข้าใจและดูแลสุขภาพตัวเองภายหลังคลอดได้เป็นอย่างดี ก็จะช่วยลดความกังวลจากอาการปวดท้องที่เกิดขึ้นได้ รวมถึงยังช่วยฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงกลับสู่สภาวะปกติได้โดยเร็ว และมีความพร้อมที่จะเลี้ยงดูลูกน้อยได้อย่างเต็มที่

 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

  • พัฒนาการทารกในครรภ์ 1-40 สัปดาห์ ที่แม่มือใหม่ห้ามพลาด
  • อาการแพ้ท้องของคุณแม่ แพ้ท้องพะอืดพะอม แก้ยังไง พร้อมวิธีรับมือ
  • น้ำคร่ำ คืออะไร น้ำคร่ำรั่ว อาการแบบไหน สัญญาณใกล้คลอดที่ต้องรับมือ
  • อาการท้องแข็งบ่อย ลูกโก่งตัวบ่อย อันตรายหรือไม่ ทำไมคุณแม่ต้องรู้
  • เลือดล้างหน้าเด็กสีอะไร เลือดล้างหน้าเด็กสัญญาณแรกของการตั้งครรภ์
  • ตั้งครรภ์ มีเลือดออก ไม่ปวดท้อง คืออะไร อันตรายไหม สำหรับแม่ตั้งครรภ์
  • อาการคนท้องระยะแรก สัญญาณการตั้งครรภ์เป็นแบบนี้
  • เมนูคนท้อง อาหารคนท้องบำรุงคุณแม่ท้อง ดีต่อลูกในครรภ์
  • คนท้องห้ามกินอะไร อาหารที่ส่งผลเสียต่อคุณแม่ตั้งครรภ์
  • อาหารคนท้องไตรมาสแรก โภชนาการที่สำคัญสำหรับคุณแม่และทารกในครรภ์
  • วิธีนับอายุครรภ์ คำนวณอายุครรภ์ด้วยตัวเอง ก่อนคลอด
  • สัญญาณอาการใกล้คลอด เจ็บท้องคลอด อาการก่อนคลอดของคุณแม่
  • ของใช้เตรียมคลอด ที่คุณแม่มือใหม่ควรเตรียมของไปคลอด
  • การผ่าคลอดและคลอดธรรมชาติ ต่างกันยังไง พร้อมขั้นตอนเตรียมผ่าคลอด
  • ผ่าคลอดใช้เวลากี่นาที พร้อมข้อดี-ข้อเสีย คลอดเองกับผ่าคลอด
  • แผลผ่าคลอดกี่วันหาย พร้อมวิธีดูแลรอยแผลผ่าคลอดให้ฟื้นตัวไว
  • แผลฝีเย็บหลังคลอด แผลคลอดธรรมชาติ ดูแลยังไงให้ปลอดภัย
  • หลังผ่าคลอดกินอะไรได้บ้าง คนผ่าคลอดห้ามกินอะไรบ้างช่วยให้แผลหายเร็ว
  • ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดเกิดจากอะไร พร้อมวิธีรับมืออาการซึมเศร้าหลังคลอด
  • ฤกษ์คลอด ฤกษ์ผ่าคลอด วันมงคล เวลาดี สำหรับลูกรัก

 

 

อ้างอิง:

  1. "โรคหลังคลอด" ที่คุณแม่ต้องเตรียมรับมือ, โรงพยาบาลกรุงเทพ
  2. การดูแลตัวเองหลังคลอดที่คุณแม่ต้องรู้, โรงพยาบาลเปาโล
  3. 10 ความเชื่อ...จริง และ ไม่จริง กับคุณแม่หลังคลอด, โรงพยาบาลขอนแก่น ราม
  4. รวมข้อสงสัยหลังคลอด, โรงพยาบาลเปาโล
  5. ปวดมดลูกหลังคลอด...อันตรายไหม อาการแบบไหนควรรีบพบแพทย์, โรงพยาบาลพญาไท
  6. คำแนะนำการปฏิบัติตัวหลังคลอด, โรงพยาบาลวิภาวดี
  7. 13 อาการผิดปกติหลังคลอด, โรงพยาบาลเปาโล

อ้างอิง ณ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567

















































































คุณแม่ตั้งครรภ์






คุณแม่ตั้งครรภ์














แม่ผ่าคลอด






แม่ผ่าคลอด














ดูแลลูกตามช่วงวัย






ดูแลลูกตามช่วงวัย














ภูมิแพ้ในเด็ก






ภูมิแพ้ในเด็ก














แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน






แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน














พัฒนาการสมองลูกน้อย






พัฒนาการสมองลูกน้อย














การขับถ่ายลูกน้อย






การขับถ่ายลูกน้อย














แม่ให้นม






คุณแม่ให้นมบุตร














ตัวช่วยสำหรับคุณแม่






เครื่องมือตัวช่วยคุณแม่ท้อง พร้อมปฎิทินการตั้งครรภ์














อาหารเด็ก






อาหารเด็ก














S-Mom Club พร้อมเคียงข้างทุกช่วงเวลาที่สำคัญของคุณและลูก






S-Mom Club














วิดีโอแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ






วิดีโอแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ














ผลิตภัณฑ์






ข้อมูลผลิตภัณฑ์














โปรโมชั่น






โปรโมชัน



















































ความคิดเห็น

ความคิดเห็น (0)

ยังไม่มีความคิดเห็นสำหรับบทความนี้

โฆษณา

คำนวณฤกษ์แต่งงาน 2568

ปฏิทินไทย

24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
วันจันทร์
Advertisement Placeholder (Below Content Area)